close

1 เม.ย. 2568

SCGC ปรับตัว พลิกเกมฉับไว ลดต้นทุนด้วยวัตถุดิบก๊าซอีเทน เพิ่มศักยภาพการแข่งขันระยะยาว

Business Solutions Sustainability Investor Relations

ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงและความผันผวนของสถานการณ์โลก ส่งผลให้ธุรกิจได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง ซึ่งธุรกิจปิโตรเคมีที่ผ่านมาต้องเผชิญกับผลกระทบจากประเด็นด้านภูมิรัฐศาสตร์ ราคาน้ำมัน รวมไปถึงปริมาณความต้องการของตลาดที่ชะลอตัว (demand) ในขณะที่ปริมาณสินค้าในตลาด (supply) กลับมีค่อนข้างสูง เนื่องจากผู้เล่นรายใหญ่ผันตัวจากการเป็นประเทศนำเข้า สู่การผลิตสินค้าปิโตรเคมีอย่างพลาสติกเพื่อใช้ภายในประเทศและส่งออกไปยังภูมิภาคอื่นๆ แม้ว่าพลาสติกจะเป็นวัสดุที่จำเป็นต่อการผลิตของภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ก็ตาม แต่ในสถานการณ์ที่ตลาดโลกชะลอตัวเช่นนี้ การปรับตัวให้เร็วและหากลยุทธ์ใหม่ๆ มาพลิกเกมจึงเป็นเรื่องที่หลายฝ่ายต่างติดตามอย่างใกล้ชิด

SCGC หนึ่งในธุรกิจปิโตรเคมี ดำเนินธุรกิจมานานกว่า 40 ปี มีฐานการผลิตหลักใน 3 ประเทศ ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย และเวียดนาม ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา SCGC สามารถรับมือกับความความท้าทายในทุกช่วง Chemicals low cycle ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม Chemicals low cycle ครั้งนี้ ถือเป็นรอบที่ยาวนานกว่าเดิม ตั้งแต่สถานการณ์โควิด ตามด้วยประเด็นปัญหาด้านภูมิรัฐศาสตร์ ราคาน้ำมัน และปัจจัยภายนอกต่าง ๆ อีกมากมาย จึงทำให้ chemicals low cycle ครั้งนี้มีความท้าทายมากเป็นพิเศษ ซึ่ง SCGC ได้เร่งพลิกสถานการณ์ธุรกิจ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน โดยเน้นลดต้นทุนการผลิตให้ต่ำลง กระทั่งเกิดเป็น "โครงการเพิ่มวัตถุดิบก๊าซอีเทนในบริษัทลองเซิน ปิโตรเคมิคอลส์ หรือ LSP” (โครงการ LSPE)" ซึ่งจะช่วยให้ SCGC สามารถแข่งขันได้ในระยะยาว เตรียมพร้อมรับตลาดปิโตรเคมีฟื้นตัวในอนาคต และรับมือกับ Down cycle ครั้งต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

พลิกเกมด้วยกลยุทธ์เพิ่มความยืดหยุ่นด้วยก๊าซอีเทน

เมื่อมองย้อนกลับไปบนเส้นทางการผลิตปิโตรเคมี “แนฟทา (Naphtha)” วัตถุดิบที่ได้จากน้ำมัน ถือเป็นหนึ่งในวัตถุดิบหลักสำหรับผลิตพอลิเมอร์หรือเม็ดพลาสติก ซึ่งแน่นอนว่าในสถานการณ์ที่ราคาน้ำมันดิบมีความผันผวนรุนแรงต่อเนื่อง ย่อมส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้น SCGC จึงมองหาวัตถุดิบอื่นๆ เพิ่มเติมที่ยังคงทำให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพดีเช่นเดิมในราคาที่มีเสถียรภาพ จนในที่สุดก็มาสู่ Game Changer ครั้งสำคัญ นั่นคือ การนำ “ก๊าซอีเทน” (Ethane) ซึ่งเป็นองค์ประกอบหนึ่งในก๊าซธรรมชาติ มาเป็นทางเลือกใหม่ให้กับโรงงาน LSP เวียดนาม ซึ่งจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้วัตถุดิบ ช่วยลดต้นทุนการผลิตได้อย่างมีนัยสำคัญ กว่า 30% เมื่อเทียบกับแนฟทาในปัจจุบัน และยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้นด้วย

ก่อนหน้านี้ SCGC ได้มีการศึกษาเรื่องการใช้วัตถุดิบอีเทนในการผลิตพอลิเมอร์มาโดยตลอด แต่ในช่วงเวลานั้นยังมีข้อจำกัดเรื่องการส่งออกก๊าซและสาธารณูปโภคต่าง ๆ ที่เข้ามารองรับการใช้งาน แต่เมื่อเกิดการปลดล็อกในเรื่องนี้ SCGC จึงไม่รอช้าที่จะคว้าโอกาสนี้มาใช้สำหรับการต่อยอดธุรกิจให้เกิดความแข็งแกร่ง โดย SCGC ถือเป็น fast follower ที่นำเอาก๊าซอีเทนมาใช้ในกระบวนการผลิต ต่อจากบริษัทกลุ่มบริษัทปิโตรเคมีชั้นนำระดับโลกที่พิสูจน์ผลการใช้งานจนมั่นใจ

ลุยเจรจาพันธมิตร ปิดดีลสำเร็จรวดเร็ว : สัญญาระยะยาวจัดหาก๊าซอีเทน เรือขนส่งวัตถุดิบ และสร้างถังเก็บวัตถุดิบ

ด้วยความเชี่ยวชาญ ความอุตสาหะของทีมงานและผู้บริหาร SCGC ทุกระดับในการเดินเกม และตัดสินใจอย่างรวดเร็วรัดกุม จึงทำให้ SCGC ขับเคลื่อนโครงการ LSPE ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว มีความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญ ภายในระยะเวลาเพียง 4 เดือน (พฤศจิกายน 2567 – กุมภาพันธ์ 2568) SCGC ได้ลงนามในสัญญาจัดหาวัถตุดิบก๊าซอีเทนจากสหรัฐอเมริกา ประมาณ 1 ล้านตันต่อปี และลงนามในสัญญาการเช่าเหมาเรือขนส่งก๊าซอีเทนจำนวน 5 ลำ โดยทั้งหมดเป็นการลงนามเป็นสัญญาระยะยาว 15 ปี จึงมั่นใจได้ว่าจะมีวัตถุดิบก๊าซอีเทนจากสหรัฐอเมริกาส่งตรงถึงโรงงาน LSP เวียดนาม อย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ SCGC ยังได้ลงนามในสัญญาทางวิศวกรรม การจัดหา และการก่อสร้าง (EPC) สำหรับสร้างถังเก็บวัตถุดิบก๊าซอีเทน จำนวน 2 ถัง ที่ โรงงาน LSP เวียดนาม ซึ่งเป็นถังแบบ Double Wall Tank ใช้วัสดุผนังและหลังคาคอนกรีตด้านนอก และโลหะเกรดพิเศษด้านในถัง มีความจุประมาณ 55,000 ตันต่อถัง และต้องควบคุมอุณหภูมิให้ได้ประมาณ -90 องศาเซลเซียสในการใช้งาน โดยขณะนี้ โรงงาน LSP อยู่ระหว่างดำเนินการเกี่ยวกับสาธารณูปโภคอื่น ๆ สำหรับรับวัตถุดิบ (Supporting Facilities) คาดว่าโครงการฯ จะแล้วเสร็จภายในปลายปี 2027

SCGC เดินหน้าจับมือพันธมิตรระดับโลก

    • ลงนามในสัญญาระยะยาวกับ Enterprise Products Partners ผู้จัดหาก๊าซอีเทนชั้นนำจากสหรัฐอเมริกา เพื่อจัดหาวัตถุดิบก๊าซอีเทนประมาณ 1 ล้านตันต่อปี เป็นเวลา 15 ปี อ่านข่าว
    • ลงนามในสัญญาระยะยาวกับบริษัท Mitsui O.S.K. Lines (MOL) ผู้ให้บริการเรือขนส่งวัตถุดิบชั้นนำของโลก เพื่อเช่าเหมาเรือขนส่งก๊าซอีเทน (Very Large Ethane Carriers: VLECs) เป็นเวลา 15 ปี จำนวน 5 ลำ อ่านข่าว
    • ลงนามในสัญญาทางวิศวกรรม การจัดหา และการก่อสร้าง (EPC) กับกลุ่มบริษัท China Tianchen Engineering (TCC) และ PetroVietnam Technical Service Corporation (PTSC) เพื่อสร้างถังเก็บวัตถุดิบก๊าซอีเทน จำนวน 2 ถัง อ่านข่าว

ด้วยกลยุทธ์เพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้วัถตุดิบด้วยก๊าซอีเทน SCGC เชื่อมั่นว่าจะสามารถเพิ่มศักยภาพการแข่งขันระยะยาว ช่วยลดต้นทุนการผลิต โดยโรงงาน LSP จะสามารถรับก๊าซอีเทนได้มากถึงสองในสามของปริมาณวัตถุดิบทั้งหมด ควบคู่ไปกับการใช้ก๊าซโพรเพนและแนฟทา เพื่อให้สามารถเลือกใช้วัตถุดิบได้อย่างเหมาะสมกับราคาในแต่ละช่วงเวลา

จากความเชี่ยวชาญในธุรกิจมานานกว่า 40 ปี และศักยภาพของทีมงาน SCGC พร้อมรุกไปข้างหน้า ปรับตัว เร่งเครื่อง พลิกเกม เพื่อเพิ่มศักยภาพและความสามารถในการแข่งขันระยะยาว ลดต้นทุนการผลิต เร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการมูลค่าเพิ่ม (HVA Product & Service) ที่ตอบโจทย์เมกะเทรนด์ ไม่ว่าจะเป็นยานยนต์ โครงสร้างพื้นฐาน เครื่องใช้ไฟฟ้า บรรจุภัณฑ์ การแพทย์ และพลังงานทดแทน แน่นอนว่าพอลิเมอร์หรือพลาสติกยังคงเป็นวัสดุที่ตอบโจทย์ภาคอุตสาหกรรมต่างๆ และยังไม่อาจมีวัสดุอื่นที่มาทดแทนได้ รวมไปถึงยังช่วยสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้คนอีกนับไม่ถ้วน จึงเชื่อมั่นได้ว่าธุรกิจปิโตรเคมียังคงเป็นธุรกิจที่มั่นคง และพร้อมเติบโตในระยะยาว


Is this article useful ?