บ่าเหรี่ยะ-หวุงเต่า, เวียดนาม – 3 มีนาคม 2565 เอสซีจีพบคณะผู้แทนประจำจังหวัดบ่าเหรี่ยะ หวุงเต่า (Ba Ria - Vung Tau) เพื่อพูดคุยถึงความคืบหน้าโครงการลองเซิน ปิโตรเคมิคอลส์ (Long Son Petrochemicals) หรือโครงการ LSP และโครงการในอนาคตที่จะปรับเปลี่ยนเกาะลองเซิน (Long Son) สู่ความเป็นเกาะอัจฉริยะด้านสิ่งแวดล้อม (Eco-smart island) ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
เอสซีจี นำโดย นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้เข้าร่วมประชุมกับนาย ฝ่าม เวียด ต่าน สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม เลขาธิการคณะกรรมการพรรคประจำจังหวัดบ่าเหรี่ยะ-หวุงเต่า และประธานสภานิติบัญญัติท้องถิ่น พร้อมด้วยนายเหงียน ตี เยน รองเลขาธิการพรรคประจำจังหวัด หัวหน้าคณะผู้แทนจังหวัดประจำสภาแห่งชาติ และผู้นำคณะกรรมการประชาชนประจำเมืองหวุงเต่า
นายรุ่งโรจน์กล่าวในระหว่างการประชุมว่า งานก่อสร้างโครงการลองเซิน ปิโตรเคมิคอลส์ (Long Son Petrochemicals – LSP) ได้ดำเนินงานแล้วเสร็จไปถึง 91% โดยโรงงานปิโตรเคมีแห่งนี้จะเริ่มดำเนินงานได้ในไตรมาสที่ 3 และ 4 ของปี 2565
นอกจากนี้ นายรุ่งโรจน์ ยังได้กล่าวขอบคุณทางจังหวัดบ่าเหรี่ยะ -หวุงเต่า ที่ให้การสนับสนุนทั้งในด้านการให้การต้อนรับผู้ประกอบการจากต่างชาติ ด้านการลงทุน และความช่วยเหลือทางด้านวัคซีนให้กับทั้งผู้รับเหมา คนงาน และพนักงานของ LSP โดยเอสซีจีและ LSP ได้ให้ความสำคัญกับการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด 19 รวมถึงควบคุมดูแลมาตรฐานความปลอดภัยในการทำงานและความปลอดภัยของชุมชนในพื้นที่เป็นอันดับต้น ๆ
เอสซีจียังได้แสดงความสนใจในการขยายการลงทุนพื้นที่เขตอุตสาหกรรมขนาด 13.02 ตารางกิโลเมตร (1,302-hectare) และพื้นที่ท่าเรือในชุมชุนลองเซินขนาด 2.43 ตารางกิโลเมตร (243-hectare) โดยจะศึกษาความเป็นไปได้ในการปรับเปลี่ยนเกาะลองเซินให้เป็นเกาะอัจฉริยะด้านสิ่งแวดล้อม (Eco-smart island) โดยให้ความสำคัญกับ เทคโนโลยีขั้นสูงที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
นาย ฝ่าม เวียด ต่าน เลขาธิการคณะกรรมการพรรคประจำจังหวัด ได้กล่าวชื่นชมความมุ่งมั่นของเอสซีจีในการดำเนินงานโครงการ LSP ซึ่งเป็นโครงการใหญ่ที่ต้องใช้กำลังพลกว่า 15,000 คน ทั้งยังต้องให้ความสำคัญกับการป้องกัน และการช่วยเหลือด้านการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด 19
นาย ฝ่าม เวียด ต่าน กล่าวว่าทางจังหวัดบ่าเสียะ-หวุงเต่า (BR-VT) ให้คำสัญญาที่จะดำเนินการและประสานงานร่วมกับเอสซีจีอย่างเต็มที่ เพื่อให้มั่นใจว่าโครงการ LSP จะเริ่มเดินโรงงานได้ตามกำหนด ในขณะเดียวกัน ทางจังหวัดยังหวังว่าเอสซีจีจะนำเอาเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า และการควบคุมดูแลด้านสิ่งแวดล้อมมาใช้ในระหว่างการเริ่มดำเนินโครงการด้วย
