จ.ระยองนับเป็นพื้นที่ปลูกสับปะรดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.นิคมพัฒนา และ อ.ปลวกแดง ซึ่งมีการปลูกและเก็บเกี่ยวสับปะรดจำนวนมากตลอดปี แต่การปลูกพืชชนิดนี้เป็นการปลูกและเก็บเกี่ยวเพียงรอบเดียวต่อต้นแล้วปลูกซ้ำใหม่ หลังจากเก็บเกี่ยว เดิมทีจะไถกลบและเผาใบสับปะรดทิ้ง ซึ่งการเผาเศษใบจำนวนมากก่อให้เกิดมลภาวะทางอากาศ และส่งผลกระทบต่อภาวะโลกร้อน อีกทั้งการฝังกลบ ไม่ได้เป็นผลดีต่อการปลูกสับปะรดในรอบถัดไป เพราะใบสับปะรดมีลักษณะหนาและแข็ง ย่อยยาก หากกลบลงในดินอาจกลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคและจะเป็นผลเสียต่อผลผลิต กลุ่มวิสาหกิจชุมชนทอผ้าแสนใย คนแสนวิถี อ.ปลวกแดง จ.ระยอง จึงได้ริเริ่มโครงการเพิ่มมูลค่าของเหลือทิ้งทางการเกษตรอย่างใบสับปะรด มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
การนำมาทำเป็นเส้นใยและทอเป็นผืนผ้า ทำให้เสื้อผ้าที่ใช้ผ้าใยสับปะรดมีคุณสมบัติที่พิเศษกว่าเสื้อผ้าทั่วไป คือ เนื้อผ้าระบายอากาศได้ดี ใช้การทอผ้าแบบวิถีธรรมชาติดั้งเดิม นอกจากนี้ ลายผ้าที่ทอขึ้นมายังเป็นลายเฉพาะที่เป็นอัตลักษณ์ของ จ.ระยอง อีกด้วย และเนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ จึงไม่ก่อมลภาวะและน้ำเสียที่เกิดจากสารเคมีในอุตสาหกรรมสิ่งทอทั่วไป ส่งเสริมการใช้ประโยชน์ทรัพยากรให้คุ้มค่าอย่างสูงสุด ตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน ลดภาวะโลกร้อน และยังเป็นการสร้างรายได้อย่างยั่งยืนให้กับคนในชุมชน