close

4 เม.ย. 2568

เทรนด์พลาสติกรีไซเคิล ปี 2025 นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน ตอบรับ ESG

Business ESG Circular Economy Innovation Solutions Sustainability Digitization

SCGC จะพาทุกคนก้าวเข้าสู่โลกแห่งนวัตกรรมและโปรเจกต์สุดล้ำ และพาอัปเดตเทรนด์พลาสติกรีไซเคิลปี 2025 ที่จะเข้ามาปฏิวัติการวนใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่าและเสริมแกร่งให้กับ Circular Economy หรือเศรษฐกิจหมุนเวียน เพื่อความยั่งยืนที่มากยิ่งขึ้น

-------------------------------------------------------------------------------------------

ช่วงที่ผ่านมาเรารีไซเคิลกันขนาดไหน?

การรีไซเคิลพลาสติกยังคงเป็นความท้าทายสำคัญของทุกประเทศทั่วโลก โดยมีเพียงประมาณ 9% ของขยะพลาสติกที่ถูกรีไซเคิลเชิงกล (Mechanical recycling) ในขณะที่ส่วนที่เหลือถูกนำไปฝังกลบในหลุมขยะ ตกค้างในธรรมชาติ หรือถูกเผาทำลาย ตามรายงานของกรมควบคุมมลพิษพบว่า ในประเทศไทยมีขยะพลาสติกที่ถูกคัดแยกและรีไซเคิลเพียงร้อยละ 25 เท่านั้น และมีขยะพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งถึง 3 ล้านตัน ซึ่งคิดเป็น 11% ของขยะมูลฝอยทั้งหมดที่เกิดขึ้นในประเทศ

ตั้งแต่บรรจุภัณฑ์ที่ช่วยรักษาความสดใหม่ให้กับอาหาร ไปจนถึงเทคโนโลยีที่ทำให้รถยนต์ยุคใหม่มีน้ำหนักเบาลง และส่วนประกอบที่ช่วยให้แผงโซลาร์เป็นแหล่งพลังงานหมุนเวียนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น “พลาสติก” มีบทบาทสำคัญในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน ประดิษฐกรรมเรือธงแห่งศตวรรษที่ 20 นี้ เข้ามาปฏิวัติวงการวัสดุศาสตร์เพราะสามารถขึ้นรูปได้หลากหลาย ช่วยให้สินค้าสำหรับผู้บริโภคมีราคาเข้าถึงได้ สะดวก ประหยัดพลังงาน และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เมื่อพิจารณาถึงประโยชน์ทั้งหมดนี้ พลาสติกจึงยังคงเป็นวัสดุที่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง

องค์การสหประชาชาติและประเทศสมาชิกกำลังดำเนินการจัดทำสนธิสัญญาพลาสติกของสหประชาชาติ (UN Plastic Treaty) เพื่อยุติมลพิษจากพลาสติกที่ไม่ได้รับการจัดการอย่างถูกต้อง โดยการเจรจาคาดว่าจะดำเนินต่อไปจนถึงปี 2025 นี้ ในขณะเดียวกันความร่วมมือในด้านอื่น ๆ ก็จำเป็นต้องเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ พร้อมกับการนำเสนอนวัตกรรมและโครงการใหม่ ๆ ซึ่งกำลังพลิกโฉมอนาคตของการรีไซเคิลพลาสติก

-------------------------------------------------------------------------------------------

#1 CHEMICAL RECYCLING

การรีไซเคิลเชิงเคมี หรือ Chemical Recycling กำลังกลายเป็นนวัตกรรมที่น่าจับตามองในโลกของการรีไซเคิลพลาสติก โดยนำเสนอวิธีการเปลี่ยนแปลงเพื่อแก้ไขปัญหาพลาสติกใช้แล้ว ซึ่งแตกต่างจากการรีไซเคิลเชิงกลแบบดั้งเดิมที่จำกัดเฉพาะพลาสติกบางประเภท การรีไซเคิลเชิงเคมีสามารถแยกพลาสติกในระดับโมเลกุล ทำให้สามารถจัดการกับวัสดุที่ผสมหรือปนเปื้อนได้ วิธีการที่ล้ำสมัยนี้สอดคล้องกับเป้าหมายด้านความยั่งยืนโดยช่วยลดพลาสติกใช้แล้วและสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนสำหรับพลาสติก เทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น การสลายพอลิเมอร์ (Depolymerization) ไพโรไลซิส (Pyrolysis) และการทำให้เป็นแก๊ส (Gasification) กำลังเป็นหัวใจสำคัญของการเคลื่อนไหวนี้ การสลายพอลิเมอร์ช่วยแยกโครงสร้างพอลิเมอร์ของพลาสติกกลับไปเป็นมอนอเมอร์ดั้งเดิม ซึ่งสามารถนำกลับมาใช้ผลิตพลาสติกใหม่ได้อีกครั้ง ในขณะที่ไพโรไลซิสและการทำให้เป็นแก๊สช่วยเปลี่ยนพลาสติกให้กลายเป็นเชื้อเพลิงหรือวัตถุดิบที่มีคุณค่าสำหรับอุตสาหกรรม เช่น การผลิตพลังงานและเคมี การนำการรีไซเคิลเชิงเคมีมาใช้ในกลยุทธ์ของธุรกิจจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้าน ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล) และวิธีการนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้อุตสาหกรรมเติบโต พร้อมทั้งแก้ไขปัญหาวิกฤตขยะระดับโลก

SCGC เปลี่ยนพลาสติกที่ยากต่อการหมุนเวียนใช้ซ้ำผ่านกระบวนการรีไซเคิลให้กลายเป็น Circular Naphtha ซึ่งเป็นวัตถุดิบใหม่ที่ถูกนำไปใช้ผลิต Certified Circular Polyolefin Resin เม็ดพลาสติกนี้มีคุณสมบัติเทียบเท่ากับเม็ดพลาสติกใหม่ (Virgin plastic) และได้รับการรับรองมาตรฐาน ISCC Plus (International Sustainability and Carbon Certification) ครอบคลุมทั้งห่วงโซ่อุปทาน ทำให้ SCGC เป็นรายแรกในภูมิภาคอาเซียนที่ประสบความสำเร็จ พลาสติกดังกล่าวสามารถนำไปใช้ผลิตบรรจุภัณฑ์วัสดุ Food Grade พร้อมทั้งช่วยแก้ไขปัญหาการสะสมของขยะและลดผลกระทบจากภาวะโลกร้อน

#2 BIOPLASTICS

ไบโอพลาสติกถือเป็นนวัตกรรมที่สำคัญในโลกของการรีไซเคิลพลาสติกที่ตอบเทรนด์ปี 2025 โดยนำเสนอทางเลือกที่ยั่งยืนแทนพลาสติกที่ผลิตจากปิโตรเลียมแบบดั้งเดิม ไบโอพลาสติกผลิตจากแหล่งทรัพยากรหมุนเวียน เช่น แป้งข้าวโพด อ้อย หรือสาหร่าย และถูกออกแบบให้สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติหรือผ่านการทำปุ๋ยหมัก ซึ่งช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ความก้าวหน้าล่าสุดในเทคโนโลยีไบโอพลาสติกได้ปรับปรุงความทนทานและฟังก์ชันการใช้งานของวัสดุเหล่านี้อย่างมีนัยสำคัญ ทำให้สามารถนำไปใช้ในแอปพลิเคชันที่หลากหลายมากขึ้น พร้อมทั้งลดต้นทุนการผลิต ความก้าวหน้านี้สอดคล้องกับเป้าหมายด้านความยั่งยืนระดับโลกที่มุ่งลดขยะพลาสติกและเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม บางบริษัทได้พัฒนาไบโอพลาสติกที่สามารถรีไซเคิลร่วมกับพลาสติกทั่วไปได้ ซึ่งช่วยทำให้กระบวนการรีไซเคิลง่ายขึ้นและส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียน เมื่อไบโอพลาสติกได้รับการพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง วัสดุนี้จะมีศักยภาพอย่างมหาศาลในการพลิกโฉมอุตสาหกรรมพลาสติก โดยปูทางสู่อนาคตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น

บราสเคม สยาม ใน SCGC จับมือ Braskem และมิตรผลไบโอฟูเอลของประเทศไทย มีแผนการก่อสร้างโรงงานผลิตเอทิลีนชีวภาพที่ทันสมัยที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง ซึ่งได้ผสานความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีพลาสติกชีวภาพของบราสเคม ประเทศบราซิล และ Green Innovation ของ SCGC เข้าไว้ด้วยกัน ถือเป็นโรงงานแห่งแรกนอกประเทศบราซิล โดยตั้งเป้าผลิตเอทิลีนชีวภาพจากเอทานอลที่ใช้ผลิตผลจากภาคการเกษตรแทนเอทิลีนจากฟอสซิล ด้วยกำลังการผลิต 200,000 ตันต่อปี นับเป็นโรงงานผลิตเอทิลีนชีวภาพแห่งแรกในเอเชีย คาดว่าโรงงานจะแล้วเสร็จภายในปี 2570 ทั้งนี้ บราสเคม สยาม มีปริมาณความต้องการใช้วัตถุดิบเอทานอลกว่า 450 ล้านลิตรต่อปี โดยจัดหาวัตถุดิบเอทานอลที่มีศักยภาพทั้งในประเทศและต่างประเทศในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง

#3 MATERIAL REDUCTION

การออกแบบบรรจุภัณฑ์น้ำหนักเบาได้กลายเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมสำคัญสำหรับเทรนด์ปี 2025 นี้ด้วย เพราะเป็นการเสนอวิธีการที่เป็นรูปธรรมในการส่งเสริมความยั่งยืน ขณะเดียวกันก็สนับสนุนความพยายามในการรีไซเคิลพลาสติก ด้วยการลดการใช้วัสดุโดยไม่ลดทอนความแข็งแรง ความทนทาน หรือฟังก์ชันการใช้งาน บรรจุภัณฑ์น้ำหนักเบาช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและลดต้นทุนการผลิต แนวทางนี้กำลังได้รับความนิยมในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น อาหารและเครื่องดื่ม อีคอมเมิร์ซ (e-Commerce) และผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล ซึ่งบรรจุภัณฑ์มีบทบาทสำคัญต่อการรับรู้ของผู้บริโภคและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ เมื่อหลายแบรนด์เริ่มมีการนำกลยุทธ์การออกแบบบรรจุภัณฑ์น้ำหนักเบามาใช้ พวกเขาไม่เพียงตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่มองหาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังสอดคล้องกับเป้าหมายด้าน ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล) เทรนด์ที่เปลี่ยนแปลงไปนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของแบรนด์และผู้ผลิตพลาสติกในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และผลักดันเศรษฐกิจหมุนเวียน เพื่อปูทางสู่อนาคตที่ยั่งยืนมากขึ้น

SMXTM Technology เทคโนโลยีการผลิตเม็ดพลาสติก HDPE คุณภาพสูงที่พัฒนาโดย SCGC ช่วยออกแบบพลาสติกที่มีความแข็งแรง ทนทาน และมีความยืดหยุ่นสูง เทคโนโลยีนี้ช่วยเพิ่มคุณสมบัติของเม็ดพลาสติกที่ทำให้สามารถลดการใช้พลาสติกลงได้โดยยังคงคุณภาพสูง น้ำหนักเบา และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

#4 WASTE MANAGEMENT ECONOMY

หนึ่งในเทรนด์สำคัญที่น่าจับตามองในปี 2025 คือการนำ เศรษฐกิจแบ่งปัน (Sharing Economy) มาใช้ในด้านการจัดการขยะ ซึ่งแตกต่างจากโมเดลดั้งเดิมที่มุ่งเน้นการเติบโตแบบแยกส่วน เศรษฐกิจแบ่งปันเน้นการใช้ทรัพยากรร่วมกันผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลเป็นตัวขับเคลื่อน ทำให้เกิดสินค้าและบริการที่ตอบสนองความต้องการของผู้คนในวงกว้าง ในบริบทของการจัดการขยะ ตัวอย่างของเศรษฐกิจแบ่งปัน ได้แก่ การแบ่งปันโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการรีไซเคิล บริการเก็บขยะ และการใช้ความเชี่ยวชาฐด้านการจัดการขยะร่วมกันที่มากยิ่งขึ้น ซึ่งช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพอย่างมีนัยสำคัญ การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งเสริมความยั่งยืน สร้างการมีส่วนร่วมของชุมชน และสนับสนุนการรีไซเคิลพลาสติก โดยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรและลดปริมาณขยะให้น้อยที่สุด เมื่อแพลตฟอร์มดิจิทัลเติบโตอย่างต่อเนื่อง โมเดลการจัดการขยะที่ใช้เศรษฐกิจแบ่งปันคาดว่าจะขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญในปีนี้และอนาคต ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในภูมิทัศน์การจัดการขยะ โมเดลนวัตกรรมเหล่านี้สอดคล้องกับ หลักการ ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล) โดยเน้นการจัดการทรัพยากรอย่างรับผิดชอบและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการผสานเทคโนโลยีและความร่วมมือ เศรษฐกิจแบ่งปันไม่เพียงปฏิวัติการจัดการขยะ แต่ยังปูทางไปสู่อนาคตที่ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งชุมชนและองค์กรร่วมมือกันเพื่อสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนที่ทรัพยากรถูกใช้ซ้ำอย่างคุ้มค่าและขยะลดลงอย่างเป็นรูปธรรม

บางซื่อโมเดลถือเป็นโครงการริเริ่มด้านการจัดการขยะของ SCGC ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปี 2018 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรและส่งเสริมการแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง โมเดลการจัดการขยะนี้ช่วยเสริมสร้างความรู้และความเข้าใจให้พนักงานสามารถรีไซเคิลและนำทรัพยากรกลับมาใช้ใหม่ได้อย่างถูกต้อง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบการจัดการขยะที่ยั่งยืน เมื่อเวลาผ่านไป โครงการนี้ได้รับการขยายผลออกไปนอกองค์กร และเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดโครงการที่ส่งผลเชิงประจักษ์ เช่น ชุมชน LIKE (ไร้) ขยะ, ถุงนมกู้โลก, และ Wake Up Waste
SCGC เสริมสร้างความพยายามด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ผ่านความร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ต่าง ๆ เราจับมือกับ Global House เปลี่ยนพลาสติกใช้แล้วภายในร้านค้า และศูนย์กระจายสินค้าของ Global House ให้เป็นถุงพลาสติกรักษ์โลก ด้วยนวัตกรรมเม็ดพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูง (High Quality PCR) จาก SCGC GREEN POLYMER™ นำพลาสติกใช้แล้วกลับสู่กระบวนการรีไซเคิลอย่างสมบูรณ์ ไม่เกิดการหลุดรอดสู่ภายนอก ตอกย้ำการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดอย่างเป็นรูปธรรมตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน เมื่อปีที่ผ่านมา SCGC ยังได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MoU) กับ HomePro เพื่อเปิดตัวโครงการ "Closed-Loop Circular Appliances" แห่งแรกในประเทศไทย โดยมุ่งเน้นการรีไซเคิลเครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อม

#5 ENHANCED SORTING AND CLEANUP

เรากำลังจะได้เห็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญในการลดผลกระทบจากขยะพลาสติกที่ไม่ได้รับการจัดการอย่างถูกต้องผ่านเทคโนโลยีปี 2025 ซึ่งโฟกัสไปที่การทำคัดแยกและการรีไซเคิลพลาสติก เทคโนโลยีทำความสะอาดพลาสติกในมหาสมุทรกำลังกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการต่อสู้กับความท้าทายนี้ตั้งแต่ต้นทาง ระบบเหล่านี้รวมถึงอุปกรณ์ดักจับพลาสติกแบบลอยน้ำ เรืออัตโนมัติบนผิวน้ำ และแนวกั้นลอยน้ำขนาดใหญ่ ได้รับการออกแบบมาเพื่อเก็บและกำจัดขยะพลาสติกจากมหาสมุทร แม่น้ำ และแหล่งน้ำอื่น ๆ โดยการดักจับและเก็บขยะเหล่านี้ช่วยป้องกันความเสียหายเพิ่มเติมต่อระบบนิเวศทางทะเล นอกจากนี้ ยังมีโครงการที่กำลังสำรวจวิธีการเปลี่ยนขยะพลาสติกในมหาสมุทรให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานได้ ซึ่งช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียนและสอดคล้องกับเป้าหมายด้านความยั่งยืน ในขณะเดียวกัน เทคโนโลยีการคัดแยกที่ล้ำสมัยก็กำลังปฏิวัติกระบวนการรีไซเคิลพลาสติก วิธีการคัดแยกแบบดั้งเดิมมักเจอข้อจำกัด เช่น การปนเปื้อนหรือการจัดหมวดหมู่วัสดุที่ผิดพลาด อย่างไรก็ตาม ระบบอัตโนมัติที่ติดตั้งเซ็นเซอร์ขั้นสูง มี AI หรือปัญญาประดิษฐ์ และ Machine Learning ต่างกำลังเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ เทคโนโลยีขั้นสูงที่ได้รับความนิยมสูงสุดในยุคนี้สามารถระบุและแยกพลาสติกตามองค์ประกอบทางเคมี สี และรูปร่างได้อย่างแม่นยำ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความบริสุทธิ์ในกระบวนการรีไซเคิล การคัดแยกที่ดีขึ้นช่วยลดการปนเปื้อน ทำให้สามารถผลิตพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูงขึ้นและสนับสนุนเศรษฐกิจหมุนเวียน เทคโนโลยีทั้งการทำความสะอาดมหาสมุทรและการคัดแยกที่ล้ำสมัยเป็นตัวอย่างของการผนวกหลักการ ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล) เข้ากับกลยุทธ์การจัดการขยะ นวัตกรรมเหล่านี้ไม่เพียงช่วยแก้ไขปัญหามลพิษ แต่ยังส่งเสริมแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืน พร้อมทั้งปูทางสู่อนาคตที่สะอาดและใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

โครงการพัฒนาและอนุรักษ์ชายฝั่งของ SCGC ได้รับการขับเคลื่อนมาอย่างต่อเนื่องมานานกว่า 10 ปี โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2005 เป็นการร่วมประสานพลังชุมชนริมชายหาดและเทศบาลท้องถิ่น รวมถึงผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด และพนักงานในองค์กร ในการเก็บขยะชายหาดตลอดแนวชายฝั่งของอำเภอเมือง อำเภอบ้านฉาง อำเภอเพ และอำเภอแกลง จังหวัดระยอง เพื่อเก็บขยะจากทะเลที่เข้ามาสู่ชายหาดตามฤดูกาล และได้ร่วมกับพันธมิตร เข้าร่วมกิจกรรมวันอนุรักษ์ชายฝั่งสากล จังหวัดระยอง หรือ International Coastal Cleanup เป็นประจำทุกปี เพื่อสร้างจิตสำนึกเรื่องขยะคือทรัพยากร พร้อมส่งเสริมการคัดแยกและการทิ้งขยะอย่างถูกต้องเพื่อลดปัญหาขยะในทะเล
Wake Up Waste ดิจิทัลแพลตฟอร์มและรถบีบอัดขยะรีไซเคิล หนึ่งในกรีนโซลูชันจาก SCGC ที่ช่วยให้กระบวนการจัดการขยะ ตั้งแต่ต้นทางไปสู่การรีไซเคิลอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดย Wake Up Waste ประกอบไปด้วย ดิจิทัลแพลตฟอร์มการบริหารจัดการขยะ (Waste Management Platform) ที่ช่วยให้การรับซื้อและขนส่งไปยังโรงงานปลายทางเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส เก็บข้อมูลได้ รวมถึง รถบีบอัดขยะรีไซเคิล (Mobile Compress Service) เทคโนโลยีรถบีบอัดขยะรีไซเคิล ที่ช่วยลดพื้นที่กองเก็บลงได้ 5-10 เท่า เพิ่มโอกาสให้คนต้นทางแยกขยะได้อย่างถูกต้อง เห็นมูลค่าขยะรีไซเคิล เพื่อต่อยอดนำไปใช้ประโยชน์ให้คุ้มค่าสูงสุด และช่วยแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

5 เทรนด์พลาสติกรีไซเคิลปี 2025 ที่ SCGC ได้พาไปอัปเดต ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่จะเข้ามาปฏิวัติการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และเสริมสร้าง Circular Economy หรือเศรษฐกิจหมุนเวียนให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ด้วยความมุ่งมั่นของ SCGC ในการพัฒนานวัตกรรมและการดำเนินโครงการที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เราไม่เพียงแค่สร้างสรรค์เทคโนโลยีใหม่ ๆ ออกแบบนวัตกรรมและโซลูชันแต่ตอบเทรนด์ต่าง ๆ ของโลก แต่ยังสร้างแรงบันดาลใจให้กับสังคมในการร่วมมือกันเพื่อปกป้องโลกใบนี้ให้ยั่งยืนต่อไปในอนาคต


Is this article useful ?