close

22 มิ.ย. 2564

ธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี กับ “ดิจิทัลโซลูชัน” ยกระดับกระบวนการผลิตในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี

Digitization

การคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมเกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่การปฏิวัติอุตสาหกรรมเมื่อราว 260 ปีที่แล้ว ทั้งนี้เพื่อประสิทธิภาพการทำงานที่ดียิ่งขึ้น คุณภาพการผลิตที่ได้มาตรฐาน ย่นระยะเวลาและใช้พลังงานน้อยลง รวมถึงลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นกับบุคลากรซึ่งเป็นทรัพยากรที่สำคัญอย่างยิ่งของธุรกิจ

จากการให้ความสำคัญกับเงื่อนไขดังกล่าว ธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี หนึ่งในผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ครบวงจรรายใหญ่ของประเทศไทยและผู้ผลิตชั้นนำในภูมิภาคเอเชีย จึงได้เร่งเดินหน้าคว้าโอกาสในการดำเนินธุรกิจโดยประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในทุกทัชพอยต์ของการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องและจริงจัง ตัวอย่างที่น่าสนใจก็คือ การบูรณาการ Digital Reliability Platform หรือ DRP และ Automation เทคโนโลยีดิจิทัลที่ช่วยยกระดับกระบวนการผลิตของธุรกิจให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลดียิ่งขึ้น

ตอบโจทย์ Reliability การผลิต ด้วย Digital Reliability Platform
หนึ่งในกระบวนการสำคัญของอุตสาหกรรมปิโตรเคมี คือ การใช้เครื่องจักรเป็นตัวช่วยสำคัญในการผลิต ในกรณีที่เกิดการหยุดการผลิตโดยไม่คาดคิด ย่อมส่งผลต่อห่วงโซ่อุปทานของกระบวนการผลิตจนอาจกลายเป็นวิกฤตได้ ธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี จึงได้พัฒนา Digital Reliability Platform (DRP) เพื่อช่วยดูแลการบริหารจัดการประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องจักรแบบครบวงจร (Asset Performance Management หรือ APM) นวัตกรรมดังกล่าวเป็นการประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI และการเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) โดยผสานข้อมูลของอุปกรณ์ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ (Big Data) เพื่อแสดงสถานะการทำงานของเครื่องจักรในโรงงาน ช่วยให้ทีมงานสามารถคาดการณ์ (Predictive Analysis) สุขภาพของเครื่องจักร (Equipment Health) ตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงาน และยกระดับมาตรฐานการบํารุงรักษาระหว่างหน่วยปฏิบัติการต่าง ๆ เพื่อช่วยป้องกันเหตุขัดข้องที่ทำให้ต้องหยุดการทำงานของเครื่องจักรแบบฉุกเฉินลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Digital Reliability Platform หรือ DRP นี้ เป็นระบบเทคโนโลยีดิจิทัลที่ธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี พัฒนาร่วมกับ AVEVA (อาวีวา) ผู้นําโลกด้านวิศวกรรมและซอฟต์แวร์สำหรับงานอุตสาหกรรม เปิดตัวออกสู่ตลาดไปเมื่อปลายปี 2563 โดยจะเป็นระบบที่นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการเครื่องจักรได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์เป็นรายแรกในตลาด ซึ่งจะเป็นการรวมทั้งเทคโนโลยีและซอฟต์แวร์ที่ทันสมัยและข้อมูลเฉพาะทางของอุตสาหกรรมเข้าไว้ด้วยกัน

ตอบรับการแข่งขันทางธุรกิจ ด้วย Automation
เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ ผนวกกับวิสัยทัศน์อันแจ่มชัดผ่านการมองภาพรวมที่เชื่อมโยงกันทั้งหมดของระบบ ทำให้ นวอินเตอร์เทค หนึ่งในบริษัทของธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี ที่เชี่ยวชาญงานแม่พิมพ์สำหรับอัดฉีด งานรีดพลาสติก แม่พิมพ์ตีขึ้นรูปโลหะและชิ้นส่วนเครื่องจักรในอุตสาหกรรม สามารถพัฒนาความรู้ความเชี่ยวชาญไปสู่ Automation ก้าวสู่การเป็นธุรกิจที่บูรณาการนวัตกรรมดังกล่าว เพื่อรองรับลูกค้าทั้งภายในและภายนอกได้อย่างทันสมัย

ปัจจุบัน นวอินเตอร์เทค ได้พัฒนานวัตกรรม Automation ขึ้นเพื่อใช้งานเองและลดการพึ่งพานวัตกรรมจากต่างประเทศ อาทิ หุ่นยนต์สามแกน (3 Axis Robot) สำหรับการนำชิ้นงานออกจากแม่พิมพ์และตัดก้านฉีดอัตโนมัติ การใช้เซอร์โวมอเตอร์ (Servo Motor) มาปรับปรุงระบบไฮดรอลิกในเครื่องฉีด ช่วยประหยัดพลังงานได้สูงสุดถึงร้อยละ 60 การนำ Automated Guided Vehicle ซึ่งเป็นรถยนต์ขนส่งอัตโนมัติมาใช้ขนส่งสินค้าภายในโรงงาน รวมถึงนวัตกรรม Automation อื่น ๆ อาทิ Automated Storage and Retrieval System (ASRS), Palletizer Robot, Loading Robot และ Big Bag Stacker สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.nawaintertech.com

ธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี ยังคงมุ่งมันพัฒนาและต่อยอดเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อนำมาเพิ่มประสิทธิภาพให้กับทุกขั้นตอนของการดำเนินธุรกิจ และยกระดับขีดความสามารถของอุตสาหกรรมปิโตรเคมีของไทย ให้สามารถแข่งขันได้กับประเทศอื่น ๆ เพื่อช่วยขับเคลื่อนประเทศให้ก้าวสู่ยุค Industrial 4.0 อย่างเต็มรูปแบบต่อไป

ที่มาภาพ: res.cloudinary


Is this article useful ?