ขณะที่อีกไม่กี่สัปดาห์เรากำลังเข้าสู่ครึ่งปีของ 2025 ตลาดงานเองก็ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยยะสำคัญไปด้วย ซึ่งมีเทรนด์การทำงาน 2025, แนวโน้มอาชีพแห่งอนาคต และรูปแบบของออฟฟิศที่เปลี่ยนไปเป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญ ระบบหรือกระบวนการทำงานอัตโนมัติที่ใช้เทคโนโลยีและซอฟต์แวร์เพื่อจัดการและควบคุมงานต่างๆ แทนการทำงานด้วยแรงงานคน AI และกระแสการผลักดันเพื่อความยั่งยืน กำลังสร้างความเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมต่าง ๆ รวมถึงเปิดโอกาสใหม่ ๆ ให้กับตำแหน่งงานที่น่าสนใจ เช่น นักพัฒนา AI ขั้นสูง ที่ปรึกษาด้านพลังงานสีเขียว และผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ จากรายงาน Future of Jobs Report 2025 ของ World Economic Forum และผลสำรวจล่าสุดของ ManpowerGroup Employment Outlook Survey ยังเผยให้เห็นถึงความสำคัญของการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ และการเปิดรับนวัตกรรมเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันในตลาดงานที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
จากข้อมูลเชิงลึกที่รวบรวมโดย SCGC และการทำความเข้าใจแนวโน้มที่กำลังเกิดขึ้น หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหางานหรือกำลังอยากเปลี่ยนสายงานจะสามารถพัฒนาทักษะสำคัญที่สอดคล้องกับเทรนด์หางาน 2025 และอาชีพในอนาคตได้ เช่น ความสามารถในการปรับเปลี่ยนตัวเองเพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงหรือความผันผวน การคิดเชิงวิพากษ์ และความชำนาญทางเทคนิค ด้วยทักษะเหล่านี้ คุณจะสามารถเดินทางในเส้นทางอาชีพได้อย่างมีประสิทธิภาพ และตัดสินใจอย่างรอบคอบในภูมิทัศน์วิชาชีพที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องนี้
เทรนด์ทำงานและตำแหน่งงาน ตอบรับ โลกการทำงานอนาคต
ภายในปี 2030 เทรนด์ทำงาน 2025 อาชีพแห่งอนาคต ตำแหน่งงานที่มีความจำเป็นและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีจะเข้ามาพลิกโฉมตลาดแรงงานทั่วโลก ตามรายงาน Future of Jobs Report 2025 ซึ่งอ้างอิงข้อมูลจากนายจ้างกว่า 1,000 รายใน 22 อุตสาหกรรม และ 55 เศรษฐกิจทั่วโลก เผยให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่ขับเคลื่อนโดย AI หุ่นยนต์ และระบบพลังงาน หนึ่งในแนวโน้มที่มีผลกระทบมากที่สุดคือการขยายการเข้าถึงดิจิทัล โดย 60% ของนายจ้างมองว่าแนวโน้มนี้จะเปลี่ยนแปลงรูปแบบธุรกิจอย่างมีนัยสำคัญภายในปี 2030 โดยในปัจจุบันตำแหน่งงานที่มีการเติบโตสูง ได้แก่ นักพัฒนา AI วิศวกรพลังงานหมุนเวียน และผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์กำลังได้รับความนิยมอย่างสูง ขณะที่ความต้องการทักษะที่เกี่ยวกับการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ ความรู้ด้านเทคโนโลยี และเครือข่ายและความปลอดภัยทางไซเบอร์ ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เน้นให้เห็นถึงความสำคัญของการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว เพื่อประสบความสำเร็จในการทำงานให้กับองค์กร
รายงาน The Jobs on the Rise Report ยังเน้นย้ำถึงเทรนด์ทำงาน 2025 และ เทรนด์หางาน 2025 ที่สำคัญ โดยชี้ให้เห็นถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับทั้งตำแหน่งงานที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีและตำแหน่งงานที่เน้นทักษะมนุษย์ เทคโนโลยียังคงเป็นอุตสาหกรรมที่เติบโตเร็วที่สุดในระดับโลก โดยตำแหน่งงานอย่างวิศวกร AI ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ และผู้เชี่ยวชาญด้าน Machine Learning ติดอันดับตำแหน่งงานที่มีความต้องการสูงสุดในประเทศต่าง ๆ เช่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร สิงคโปร์ และเนเธอร์แลนด์
ตลาดแรงงานโลกกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ถูกกระตุ้นด้วยการเปลี่ยนผ่านไปสู่ความยั่งยืนและการเปลี่ยนแปลงทางประชากรศาสตร์ ตำแหน่งงานที่เน้นความยั่งยืนกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยอาชีพอย่างวิศวกรพลังงานหมุนเวียน วิศวกรสิ่งแวดล้อม และผู้เชี่ยวชาญด้านยานพาหนะไฟฟ้า/อัตโนมัติ กำลังกลายเป็นตำแหน่งงานเนื้อหอมของตลาดงานโลก การบรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ได้กลายเป็นหนึ่งในแนวโน้มอาชีพที่มีผลกระทบมากที่สุด ซึ่งเน้นย้ำถึงความสำคัญของบุคลากรที่มีความสามารถด้านความยั่งยืน ในขณะเดียวกันการเพิ่มขึ้นของประชากรสูงอายุในประเทศที่มีรายได้สูงกำลังสร้างความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ เช่น พยาบาล ส่วนประชากรวัยทำงานที่เพิ่มขึ้นในประเทศที่มีรายได้ต่ำกำลังผลักดันตำแหน่งงานที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา เช่น ครูผู้สอนระดับอุดมศึกษา ยุโรปกำลังเป็นผู้นำในด้านการสร้างงานที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืน โดยประเทศอย่างเนเธอร์แลนด์แสดงให้เห็นถึงการเติบโตที่โดดเด่นในตำแหน่งงาน เช่น ผู้เชี่ยวชาญด้านความยั่งยืน และที่ปรึกษาด้านพลังงาน เมื่อความยั่งยืน นวัตกรรม และความต้องการของสังคมกำลังปรับเปลี่ยนตลาดงาน ปี 2025 และโลกอนาคต จึงเป็นปีที่เต็มไปด้วยโอกาสในสายอาชีพหลากหลายสำหรับคนที่กำลังต้องการปรับเป้าหมายของตนให้สอดคล้องกับแนวโน้มของตลาดงานระดับโลก
ในบริบทเดียวกันของโลกหลัง COVID-19 อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการบริการกำลังกลับมาฟื้นตัว โดยตำแหน่งงานอย่างที่ปรึกษาการท่องเที่ยว ช่างเครื่องบิน และหัวหน้างานด้านอาหารและเครื่องดื่มต่างก็กำลังเติบโตในภูมิภาคต่าง ๆ เช่น สเปน อินโดนีเซีย และแคนาดา
ทักษะการทำงานที่จำเป็น ตอบรับ โลกการทำงานอนาคต
ออฟฟิศต่าง ๆ กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยมีแนวโน้มสำคัญ เช่น การนำ AI มาใช้ การทำงานร่วมกันในทีมที่มีหลายรุ่น และ Skill Instability ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ทักษะและทักษะทางวิชาชีพของบุคคลเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วและเปลี่ยนแปลงได้ง่ายในโลกปัจจุบัน รายงาน Work Change Report เผยให้เห็นว่าในปัจจุบัน เมื่อเทียบกับเมื่อ 15 ปีที่แล้ว คนที่ทำงานด้วยทักษะเฉพาะทางมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนงานมากขึ้นถึงสองเท่าในช่วงชีวิตการทำงานของพวกเขา โดย AI เป็นตัวเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในความต้องการทักษะและประสิทธิภาพการทำงาน ภายในปี 2030 มีการคาดการณ์ว่าทักษะที่แรงงานใช้อยู่ในปัจจุบันถึง 39% จะกลายเป็นสิ่งล้าสมัย ซึ่งเน้นย้ำถึงความจำเป็นของการพัฒนาทักษะใหม่และการเรียนรู้ตลอดชีวิต ทักษะหลักที่ยังคงมีความสำคัญในปี 2025 ได้แก่ การคิดวิเคราะห์ ความยืดหยุ่น ความสามารถในการปรับตัว และความเป็นผู้นำ ในขณะที่ทักษะที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว คือ การคิดเชิงสร้างสรรค์และความสนใจใคร่รู้ ได้ช่วยเติมเต็มทักษะด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ AI และ Big Data ที่น่าสนใจคือธุรกิจที่นำ Generative AI มาใช้พบว่ารายได้ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงผลกระทบที่เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญต่ออาชีพในอนาคต
การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าทุกคนในห่วงโซ่มูลค่าต้องพร้อมที่จะปรับตัวและพัฒนาเพื่อความสำเร็จในยุคแห่งนวัตกรรมและความยั่งยืนของโลกยุคนี้และโลกอนาคต
การบรรจบกันสองวาระสำคัญ คือ ความยั่งยืนและนวัตกรรม ยังคงเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของตลาดงานทั่วโลกในปี 2025 และอาชีพในอนาคต ตำแหน่งงานที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืน เช่น ผู้เชี่ยวชาญด้านความยั่งยืน เจ้าหน้าที่สิ่งแวดล้อม และที่ปรึกษาด้านพลังงาน กำลังเนื้อหอมอย่างที่สุด เพราะธุรกิจส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับการเรื่องของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ในขณะเดียวกันนั้นการบูรณาการ AI ก็กำลังสร้างโอกาสใหม่ในหลากหลายอุตสาหกรรม โดย 88% ของผู้บริหารระดับ C-suite ให้ความสำคัญกับการผสานรวม AI ภายในปีหน้าและอนาคต นอกจากนี้การพัฒนาทักษะใหม่กำลังจำเป็นมากขึ้น โดยกว่าครึ่งของแรงงานได้เข้าร่วมโปรแกรมฝึกอบรมเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับความต้องการที่เปลี่ยนแปลง เมื่อทักษะที่เกี่ยวข้องกับความแม่นยำและใช้มือลดความต้องการลง คนที่เปิดรับการคิดเชิงสร้างสรรค์ มีความคล่องตัว และความรู้ด้านเทคโนโลยี จะพบว่าตนเองนั้นอยู่ในตำแหน่งที่ดีในการเติบโตของภูมิทัศน์ตลาดแรงงานที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนี้
แล้วเราต้องรู้อะไรอีกบ้าง เพื่อตอบรับโลกการทำงานอนาคต
ในปีนี้และอนาคต Remote Work หรือการทำงานระยะไกลที่ไม่ต้องอยู่ในสถานที่ทำงาน ที่เรานิยมเรียกว่า Work From Home และก่อนหน้าถือเป็นสวัสดิการมาตรฐานของคนทำงาน มีแนวโน้มลดลง โดยหลายบริษัทเริ่มเปลี่ยนกลับไปใช้รูปแบบการทำงานในสำนักงานหรือแบบไฮบริด ตำแหน่งงาน Remote Work เต็มรูปแบบกำลังลดลงและกลายเป็นที่ต้องการมากขึ้น ส่งผลให้การแข่งขันสำหรับตำแหน่งงานเหล่านี้เพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้คนที่ทำงานในรูปแบบดังกล่าวควรให้ความสำคัญกับการส่งมอบผลลัพธ์ของงานที่สามารถวัดผลได้ การรักษาระเบียบวินัยในการทำงาน และการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพกับทีมงานเพื่อแสดงให้เห็นถึงคุณค่าของงานของตนเอง ในขณะเดียวกันคนที่มองหางานควรเปิดรับโอกาสในรูปแบบไฮบริดที่อาจต้องเข้าทำงานในสำนักงานบางเวลา โดยเน้นความสามารถในการทำงานได้ดีทั้งในสภาพแวดล้อมทางไกลและในอออฟฟิซ การเปลี่ยนแปลงนี้ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของความสามารถในการปรับตัวและความยืดหยุ่น เมื่อแนวโน้มในสถานที่ทำงานยังคงพัฒนาและเปลี่ยนแปลงต่อไป
จากบริบทของเทรนด์ทำงาน 2025 และอาชีพในอนาคต ตำแหน่งงานที่กำลังเติบโตในสายเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น AI, Machine Learning และการพัฒนาซอฟต์แวร์ กำลังให้ความสำคัญกับประสบการณ์จริงมากกว่าการศึกษาในระบบ แม้ใบปริญญายังคงมีค่าและความสำคัญ แต่องค์กรส่วนใหญ่ในปัจจุบันให้ความสำคัญกับประสบการณ์กับโลกของการทำงานจริง ทำให้พอร์ตการทำงาน ใบรับรองการฝึกอบรม และโปรเจ็คที่ปิดจบแล้วกลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับคนที่กำลังหางานในยุคนี้และโลกอนาคต ในทำนองเดียวกัน จดหมายสมัครงานกำลังลดความสำคัญลง โดย HR เริ่มให้ความสนใจหลักฐานที่จับต้องได้ของทักษะ เช่น ตัวอย่างผลงาน กรณีศึกษา และเว็บไซต์ส่วนตัว หากต้องการสร้างความโดดเด่น คุณควรให้ความสำคัญกับการสร้างแฟ้มสะสมงานที่แสดงถึงความสำเร็จของตนเองและแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการแก้ปัญหา ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของโลกการทำงานในยุคนี้และอนาคต
สำหรับแนวโน้มของออฟฟิศ 2025 และโลกการทำงานในอนาคต กำลังเปลี่ยนไปสู่การส่งเสริมพนักงานภายในองค์กรและการแนะนำงานจากเครือข่าย เนื่องจากบริษัทส่วนใหญ่กำลังปรับกระบวนการจ้างงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและให้ความสำคัญกับกลุ่มบุคลากรที่มีอยู่ การสร้างเครือข่ายภายในที่แข็งแกร่งผ่านการทำงานร่วมกันและการสร้างความสัมพันธ์เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการก้าวหน้าในสายอาชีพ ในส่วนของเครือข่ายภายนอก การแนะนำผ่าน LinkedIn และการมีปฏิสัมพันธ์กับมืออาชีพในสายงานกำลังมีคุณค่ามากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งเน้นถึงความสำคัญของการอัปเดตโปรไฟล์ให้ทันสมัยและการมีส่วนร่วมอย่างมีความหมายกับคนอื่น ๆ ในสายอาชีพ นอกจากนี้แม้ว่าการเลิกจ้างพนักงานจะมีแนวโน้มลดลง แต่การหยุดชะงักในการจ้างงานอาจเกิดขึ้นบ่อยขึ้นเนื่องจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ คนที่กำลังหางานควรให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะ การได้รับใบรับรอง และการสำรวจโอกาสการทำงานแบบฟรีแลนซ์เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันในช่วงเวลาที่การจ้างงานชะลอตัว กลยุทธ์เหล่านี้สอดคล้องกับการให้ความสำคัญที่เพิ่มขึ้นต่อความยั่งยืนและนวัตกรรมในการเติบโตในสายอาชีพของคุณเอง แนวโน้มอาชีพปี 2025 กำลังปรับเปลี่ยนอุตสาหกรรม โดยมีแรงผลักดันจากระบบอัตโนมัติ ความยั่งยืน และนวัตกรรม
เทรนด์ทำงาน 2025, เทรนด์หางาน 2025 และอาชีพแห่งอนาคต กำลังกำหนดทิศทางของอุตสาหกรรมซึ่งถูกขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและประเด็นความยั่งยืน ตำแหน่งงานที่ได้รับความนิยมอย่างมีนัยยะสำคัญที่เกี่ยวกับ AI พลังงานสีเขียว และความปลอดภัยไซเบอร์ยังตอกย้ำให้คนที่กำลังหางานหรืออยากเปลี่ยนงานต้องปรับตัวเก่งและรู้จักเรียนรู้การใช้งานเทคโนโลยีใหม่ ๆ ขณะเดียวกัน ออฟฟิศก็ให้ความสำคัญกับการปรับตัวให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีที่เกิดใหม่และความยั่งยืนเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน ข้อมูลเชิงลึกจากรายงานสำคัญ ได้แก่ Future of Jobs Report 2025 ของ World Economic Forum และของ ManpowerGroup Employment Outlook Survey ยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการสร้างทักษะเชิงกลยุทธ์เพื่อเติบโตในภูมิทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงนี้ ด้วยการเปิดรับนวัตกรรมและการทำความเข้าใจแนวโน้มเหล่านี้ คุณสามารถคว้าโอกาสและสร้างเส้นทางอาชีพที่ยั่งยืนและมุ่งสู่อนาคตการทำงานโลกอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
มาเป็นหนึ่งในทีมของเราที่ SCGC และร่วมสร้างโซลูชันพลาสติกเพื่อโลก เพื่อสังคมไปด้วยกัน คลิก https://career.scg.com/
___________________________________
แหล่งข้อมูลอ้างอิงและเครดิตรูป:
