ทุกความสำเร็จล้วนมาจาก “ความซื่อสัตย์” ต่อตัวเองและลูกค้า และ “เปิดใจรับฟัง” ทุกเสียงตอบรับ แต่หากไม่พินิจ “แก่น” ธุรกิจของตนเองให้ดีว่าตรงกับตลาดไหม หรือเลือกที่จะรับฟังเฉพาะเสียงตอบรับด้านดี มันก็ยากที่จะประสบความสำเร็จในธุรกิจสตาร์ตอัป (Startup) มาฟังมุมมองของคุณเอเบล ทีโอ CEO & Co-Founder และ เจอร์วิส ลู ชี เทียน Lead Product Designer “Castomize Technologies” จาก Singapore University of Technology and Design คิดค้นนวัตกรรมการออกแบบเฝือกรักษ์โลกจากเทคโนโลยีการพิมพ์ 4 มิติ (4D Printing) ทีมชนะเลิศจากการแข่งขันแผนธุรกิจ Startup ระดับโลกจากเวที SCG Bangkok Business Challenge @ Sasin 2023 ด้วยแนวคิดธุรกิจเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน จัดโดย บริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGC และ ศศินทร์ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (Sasin School of Management)
นวัตกรรม Startup… จากความห่วงใย
ด้วยผู้ร่วมก่อตั้งรุ่นบุกเบิกคนหนึ่งประสบอุบัติเหตุแขนหักระหว่างออกค่ายบนภูเขา เราจึงมุ่งคิดค้นทางเลือกอื่นที่ดีกว่า “เฝือก” โดยพยายามหาโซลูชันโดยผสานความรู้ด้านวิศวกรรมชีวการแพทย์และวิศวกรรมเชิงกล เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือที่จะเป็นมาตรฐานใหม่ในการรักษากระดูกหักหรือร้าว นี่คือจุดกำเนิดของ Castomize Technologies ที่พยายามใช้ 4D Printing ในการออกแบบเพื่อให้ผู้คนเข้าถึงการรักษาได้ง่ายขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น
พลิกโฉมการเข้าเฝือกด้วย 4D Printing สวมง่าย กันน้ำ ไม่คัน สมานแผลง่าย
เฝือกที่ใช้กันทั่วไปที่ผลิตจากปูนพลาสเตอร์และไฟเบอร์กลาส สวมใส่ไม่สบาย ทำให้เหงื่อออก คัน ไม่กันน้ำ ทั้งยังต้องใช้เวลาใส่ราว 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง แล้วยังต้องทนใช้เวลาอีกหลายชั่วโมงกว่าเฝือกจะแข็งตัวเข้าที่ เราจึงเริ่มพัฒนาเฝือกที่ทำจากพลาสติกสูตรเฉพาะของเราซึ่งจดเป็นทรัพย์สินทางปัญญาแล้ว เฝือกของเรามีความแข็งแรงเท่ากับเฝือกทั่วไป แต่ใช้วัสดุเพียง 1 ใน 10 และใช้เวลาสวมแค่ 3 นาที อีกทั้งยังกันน้ำ ไม่คัน และช่วยให้แพทย์ติดตามกระบวนการสมานแผลได้ง่ายขึ้น
เฝือกรักษ์โลก ใช้ซ้ำ ขึ้นรูปใหม่ได้ อัปไซเคิลเป็นชุดปฐมพยาบาลช่วยผู้ประสบภัยพิบัติ
โครงการของเราสร้างความยั่งยืนทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและการเข้าถึงสาธารณสุข ส่วนแรกเรื่องสิ่งแวดล้อม มาตรฐานเฝือกในปัจจุบันทำให้เราต้องใช้อุปกรณ์ประเภทใช้แล้วทิ้งมากมาย เช่น ผ้าพันแผล ผ้าพันแผลผ้าฝ้าย และตัวเฝือกเอง ซึ่งต้องทิ้งเมื่อผู้ป่วยไม่ต้องใส่เฝือกแล้ว หรือเมื่อสภาพแผลเปลี่ยนไปและต้องใส่เฝือกใหม่ ในขณะที่ Castomize ของเราใช้ 4D Printing ทำให้ใช้แค่ตัวเฝือกเท่านั้น ทั้งยังถอดได้ระหว่างการสมานแผล เนื่องจากระหว่างสมานแผลอาจเกิดอาการบวมหรือหายบวมซึ่งเฝือกสามารถขึ้นรูปใหม่ได้ง่ายและนำมาสวมใหม่ได้ทันที ทำให้ผู้ป่วยใส่เฝือกเดิมได้ตลอดการรักษา
นอกจากนั้น เมื่อผู้ป่วยรักษาหายแล้ว สามารถนำเฝือกที่ใช้แล้วมาอัปไซเคิลเป็น “ชุดปฐมพยาบาล” ได้ด้วย เราวางแผนที่จะนำชุดอุปกรณ์นี้ไปใช้ในสถานที่ที่ขาดแคลนโครงสร้างพื้นฐานด้านสาธารณสุขและเผชิญภัยธรรมชาติ ขณะนี้ อาการบาดเจ็บที่พบได้มากที่สุดระหว่างที่เกิดภัยธรรมชาติ ราว 56% คืออาการบาดเจ็บที่เกี่ยวข้องกับกระดูกหัก เราจึงหวังว่าเมื่อเรานำอุปกรณ์เหล่านี้ไปใช้งานแล้ว จะช่วยช่วยชีวิตคนได้มากขึ้นและพัฒนามาตรฐานความเป็นอยู่ให้แก่ผู้ป่วยกระดูกหักให้ดีขึ้นเมื่อเกิดภัยธรรมชาติ
“ซื่อสัตย์และเปิดใจรับฟังต่อเสียงตอบรับ” เป็นคุณลักษณะสำคัญที่ Startup ควรมี
สำหรับทีม Castomize Technologies แล้ว Startup จะต้อง “ซื่อสัตย์กับตัวเอง” ต้องพินิจแนวคิดธุรกิจของตัวเองให้ดีว่าสินค้าตรงกับความต้องการในตลาดไหม Startup จะต้องออกไปคุยกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้มากที่สุด และต้องซื่อสัตย์เวลาที่ลูกค้าไม่ยอมรับแนวคิดธุรกิจของตน ห้ามแก้ต่างและคิดว่า “มีแค่ลูกค้าคนนี้คนเดียวที่คิดแบบนี้” นอกจากนั้น ยังห้ามสนใจแต่เสียงตอบรับที่ดี เนื่องจากจะทำให้ผิดหวังในอนาคต
สิ่งที่ได้รับจากเวที SCG Bangkok Business Challenge @ Sasin 2023
สำหรับ Startup แล้ว บอกได้เลยว่าเวทีนี้เป็นโอกาสที่ดีมาก แม้รางวัลจะเป็นแรงจูงใจ แต่สิ่งหนึ่งที่เราต้องใส่ใจระหว่างการแข่งขันคือ คอนเน็กชันที่เราสร้าง ผู้คนที่เราได้รู้จัก รวมทั้งคำแนะนำที่ได้รับจากกรรมการนั้นมีคุณค่ากว่ามาก ซึ่งคุณจะไม่มีวันได้มาหากคุณอยู่แต่ในพื้นที่ปลอดภัยหรือ Comfort Zone คุณต้องเดินทางไปต่างประเทศอย่างประเทศไทยที่มี SCGC สนับสนุนการแข่งขันเช่นนี้ นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมคุณควรสมัครเข้าแข่งขัน SCG Bangkok Business Challenge @ Sasin
_1689650312_0.JPG)
