กลิ่นแปลกปลอมจากน้ำก๊อกไม่ใช่เรื่องที่ควรนิ่งนอนใจ เพราะเป็นสัญญาณของปัญหาที่อาจมีผลกระทบต่อสุขภาพของสมาชิกในบ้านได้ทั้งในระยะสั้นและยาว ซึ่งสาเหตุอาจของกลิ่นนั้นอาจมาได้จากหลายสาเหตุ และหนึ่งในนั้นคือมาจากถังเก็บน้ำ จึงควรต้องป้องกันไม่ให้น้ำในถังเก็บน้ำมีกลิ่น

1. เลือกเก็บน้ำเฉพาะน้ำที่สะอาด ปลอดภัย ไร้กลิ่น หรือกรองน้ำก่อนเพื่อเพิ่มความมั่นใจในความสะอาด

การเลือกน้ำที่เรานำมาใช้ควรใส่ใจให้ดี ถ้าหากมาจากแหล่งน้ำที่ไม่สะอาดพอ อาจจะทำให้เกิดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ และมีเชื้อแบคทีเรียต่าง สะสมอยู่ในถัง หรือหากมาจากแหล่งน้ำที่ไม่ได้มีมาตรฐาน เช่น น้ำฝน ก็ควรเพื่อความสะอาดปลอดภัย ด้วยการกรองน้ำก่อนเก็บ เพื่อช่วยกำจัดสิ่งเจือปนในน้ำ ทำให้น้ำสะอาดมากยิ่งขึ้น

2. เลือกสถานที่เก็บน้ำที่อยู่กลางแจ้ง ไม่อับชื้น

สถานที่เก็บน้ำเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าตั้งอยู่ในที่อับชื้น อาจเป็นสาเหตุของการสะสมเชื้อโรคต่าง ทั้งเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา ส่งผลให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ตามมา ดังนั้นควรติดตั้งถังเก็บน้ำให้อยู่ในที่แจ้งหรือมีแสงแดดเข้าถึงได้

3. ใช้ถังเก็บน้ำที่ทึบแสง ไม่ก่อให้เกิดตะไคร่น้ำ

ตะไคร่น้ำเป็นสิ่งที่สามารถพบเห็นได้ในถังเก็บน้ำที่แสงสามารถส่องผ่านเข้าไปได้ ซึ่งเป็นต้นตอของแบคทีเรีย กลิ่น และสิ่งสกปรกต่าง จึงควรเลือกถังเก็บน้ำที่มีคุณสมบัติทึบแสบ หรือมีสัญลักษณ์หยดน้ำเอลิเซอร์ ซึ่งเป็นวัสดุที่มีคุณสมบัติทึบแสง แสงแดดไม่สามารถเล็ดลอดเข้าไปได้

4.ทำความสะอาดถังเก็บน้ำเป็นประจำ ทุก 6 เดือน

ถังเก็บน้ำ หรือแทงค์น้ำ คือ จะต้องทำความสะอาดเป็นประจำทุก 6 เดือน แม้ว่าจะไม่พบสิ่งสกปรกด้วยการมองด้วยตาเปล่า ก็ไม่ควรปล่อยละเลยให้นานกว่านั้น เพราะอาจมีการสะสมของแบคทีเรียที่มองไม่เห็น ดังนั้น การทำความสะอาดถังเป็นสิ่งสำคัญ และยังเป็นสิ่งที่ช่วยยับยั้งกลิ่นต่าง อีกด้วย

ในการเลือกซื้อถังเก็บน้ำครั้งต่อไป อย่าลืมมองหาสัญลักษณ์หยดน้ำเอลิเซอร์ เพื่อความมั่นใจใจความสะอาดปลอดภัย ปราศจากสารโลหะหนัก และสามารถป้องกันหลายปัจจัยที่จะทำให้น้ำในถังเก็บน้ำมีกลิ่น