aug_180806_0006

บางครั้งเวลาไปเลือกซื้อถังเก็บน้ำ มักจะไม่ค่อยแน่ใจ ว่าควรเลือกซื้อขนาดเท่าไหร่ดีถึงจะเหมาะสมกับการใช้งาน ทั้งรูปแบบบ้านพักอาศัย และอาคารพาณิชย์ที่มีหลายชั้น ต้องเลือกอย่างไรให้เหมาะสม

aug_180806_0001

ก่อนจะไปรู้จักขนาดของถังเก็บน้ำ มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับถังเก็บน้ำกันก่อนว่ามีกี่ชนิด

ถังเก็บน้ำมี 2 ชนิดด้วยกัน

  1. ถังเก็บน้ำบนดิน จะเหมาะกับบ้านที่ค่อนข้างมีพื้นที่พอสมควรเพื่อจัดตั้งถังเก็บน้ำ ข้อดีของถังประเภทนี้คือดูแลรักษาได้ง่าย หากเกิดการชำรุดก็สามารถพบและซ่อมได้เลย ส่วนใหญ่ที่หลายคนมักกังวลคือเรื่องรูปลักษณ์ แต่ปัจจุบันหลายแบรนด์ได้ผลิตถังเก็บน้ำรูปทรงต่างๆ ออกมา มีทั้งลวดลายและสีที่หลากหลายมากขึ้น
  2. ถังเก็บน้ำใต้ดิน ส่วนใหญ่จะเหมาะกับบ้านหรืออาคารที่ค่อนข้างมีพื้นที่จำกัด และไม่ต้องการให้ถังเก็บน้ำตั้งอยู่บริเวณตัวบ้าน แต่การดูแลรักษาค่อนข้างยากเพราะอยู่ใต้ดิน บางครั้งหากเกิดการชำรุด อาจตรวจพบได้ยาก

aug_180806_0002

แบ่งเป็น 4 ประเภทวัสดุ แต่วัสดุที่นิยมใช้กันส่วนใหญ่ จะเป็นถังเก็บน้ำคอนกรีต และถังเก็บน้ำพลาสติก

  1. ถังเก็บน้ำคอนกรีตถังเก็บน้ำประเภทนี้สามารถหล่อขึ้นรูปได้ตามต้องการ แต่การใช้ถังเก็บน้ำประเภทนี้ ต้องทำระบบกันซึมเลือกวัสดุปิดผิวที่ไม่ก่อให้เกิดการสะสมของแบคทีเรีย
  1. ถังเก็บน้ำพลาสติกมีให้เลือกหลากหลายในท้องตลาด ทั้งลวดลายและรูปทรง แต่สิ่งที่ต้องระวังคือหากเลือกถังเก็บน้ำพลาสติกที่ไม่ได้คุณภาพ จะเสี่ยงต่อการปนเปื้อนของสีได้สำหรับถังเก็บน้ำอีกประเภทที่แต่ก่อนคนนิยมใช้กันคือถังเก็บน้ำสแตนเลส แต่เมื่อใช้ไปในระยะเวลานาน จะทำให้เกิดสนิมได้ ที่คนนิยมเลือกใช้กันเพราะมีความคงทน ซึ่งปัจจุบัน เทคโนโลยีการผลิตพลาสติกมีการพัฒนาขึ้นมาก ทำให้อายุการใช้งานทนทานพอกับถังสแตนเลส
  1. ถังเก็บน้ำไฟเบอร์กลาส ถังชนิดนี้มีความแข็งแรงทนทาน บรรจุน้ำได้หลายชนิด ส่วนใหญ่มักใช้กับโรงงานอุตสาหกรรม แต่ข้อเสียคือตัวถังอาจจะมีกลิ่นเรซิ่น และไม่เหมาะสำหรับใช้งานกลางแจ้ง เพราะจะทำให้แตกร้าวได้ง่าย
  1. ถังเก็บน้ำสแตนเลส ถังเก็บน้ำประเภทนี้มีความแข็งแรง ทนทาน แต่ตัวถังมีข้อจำกัดเรื่องชนิดของน้ำ หากใช้บรรจุนำกร่อย เสี่ยงต่อการขึ้นสนิมค่อนข้างมาก

aug_180806_0007

และมาถึงขนาดของถังเก็บน้ำที่ควรเลือกใช้จะใช้ขนาดเท่าไหร่ดีถึงจะเพียงพอต่อความต้องการใช้ของคนในบ้าน

เราคำนวนมาให้เรียบร้อยแล้วสำหรับบ้านพักอาศัย  แต่ถ้าใครอยากลองคำนวณเองก็ใช้สูตรนี้คำนวนได้เลย นำจำนวนคน x  200 x จำนวนวัน จะได้ปริมาณนำที่จะใช้ หรือสำหรับบางบ้านต่อคนอาจจะใช้น้ำน้อยกว่านี้ก็สามารถปรับจำนวนลิตรลงได้ให้เหมาะสมไม่จำเป็นต้องใช้ 200 ลิตร

สำหรับบ้านพักที่มีมากกว่า 2 ชั้น ในกรณีที่มีถังเก็บน้ำตั้งอยู่ชั่นล่าง เพียงอย่างเดียว ควรเลือกใช้ปั๊มน้ำเพื่อจ่ายน้ำไปยังส่วนต่างๆ ของบ้าน เพื่อไม่ให้น้ำไหลเบาเกินไป

aug_180806_0003

หมายเหตุ : คำนวณความต้องการใช้น้ำภายใต้สูตร ความต้องการใช้น้ำ ในปริมาณ 200 ลิตร ต่อคน สำหรับสำรองน้ำใช้ในเวลา 1 วัน

ส่วนขนาดที่เหมาะกับอาคารพาณิชย์

สำหรับอาคารพาณิชย์ก็สามารถใช้ถังเก็บน้ำขนาดเดียวกับไซส์อาคารบ้านเรือนได้ เพียงคำนวณความต้องการสำรองน้ำ และเลือกขนาดถังที่เหมาะสม ส่วนถ้าเป็นโรงงานอุตสาหกรรมก็ปรับเปลี่ยนตามขนาดไปตั้งแต่ถังเก็บน้ำ บิ๊กแท้งค์แบบฝังดินแนวนอน ความจุ 10 ลบ.ม จนไปถึง 50 ลบ.ม

แต่สิ่งที่อาคารพาณิชย์ต้องมี คือเครื่องปั๊มน้ำเพื่อเพิ่มแรงดันจ่ายน้ำไปยังส่วนต่างๆ แค่ขนาดใหญ่ยังไม่เพียงพอ  และจะเลือกปั๊มน้ำอย่างไรให้ตอบโจทย์กับความต้องการใช้ สิ่งที่ต้องคำนึงมีดังนี้

  1. จุดจ่ายน้ำและปริมาณน้ำที่ต้องการใช้ทั้งหมดภายในอาคาร ว่ามีปริมาณกี่ลิตรต่อนาที
  2. จำนวนคนที่อาศัยอยูในอาคาร
  3. บริเวณความสูงที่สุดของจุดจ่ายน้ำภายในบ้านเพื่อนำมาพิจารณากับปั๊มแต่ละชนิดว่ามีประสิทธิภาพพอที่จะตอบโจทย์ความต้องการการจ่ายน้ำได้หรือไม่

เท่านี้อาคารของคุณก็สามารถเลือกถังเก็บน้ำและปั๊มได้เหมาะสม กับการใช้งาน